ต้องการ ส่งของต่างประเทศ แต่ไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้บริการแบบไหนดี? บริการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เช่น ค่าขนส่ง ระยะเวลาจัดส่ง และข้อกำหนดของประเทศปลายทาง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับบริษัทขนส่งและบริการส่งของไปต่างประเทศ พร้อมคำแนะนำในการเลือกใช้บริการที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
ทำความรู้จักกับบริการส่งของต่างประเทศ
การส่งของไปต่างประเทศมีหลายรูปแบบ โดยหลัก ๆ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ:
1.บริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศ
- เหมาะสำหรับพัสดุขนาดเล็กหรือเอกสารที่ไม่ต้องการความรวดเร็วมาก เช่น ไปรษณีย์ไทย (EMS World, ePacket)
2. บริการขนส่งเอกชน
- เหมาะสำหรับพัสดุที่ต้องการความรวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถติดตามสถานะได้ เช่น DHL, FedEx, UPS และ MAKESEND Express
แต่ละบริการมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะกับประเภทของพัสดุและงบประมาณของคุณ
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกบริการส่งของต่างประเทศ
การเลือกบริการขนส่งที่เหมาะสมควรพิจารณาปัจจัยสำคัญดังนี้:

1. ระยะเวลาการจัดส่ง
- บริการด่วน (Express) เช่น DHL Express, FedEx Priority เหมาะสำหรับพัสดุที่ต้องการความรวดเร็ว (ภายใน 1-5 วันทำการ)
- บริการมาตรฐาน (Standard) เช่น ไปรษณีย์ไทย, UPS Standard เหมาะสำหรับพัสดุที่ไม่มีความเร่งด่วนมาก (7-14 วันทำการ)
2. ค่าใช้จ่ายในการส่ง
- บริการไปรษณีย์มักมีราคาประหยัด แต่ใช้เวลานานกว่า
- บริการขนส่งเอกชนมีราคาสูงกว่า แต่รวดเร็วและมีระบบติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์
- เปรียบเทียบราคาผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของแต่ละผู้ให้บริการเพื่อเลือกตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด
3. ขนาดและน้ำหนักของพัสดุ
- แต่ละบริการมีข้อกำหนดเรื่องน้ำหนักและขนาดที่แตกต่างกัน
- พัสดุขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก อาจต้องเลือกบริการขนส่งทางทะเลหรือทางอากาศที่มีราคาถูกกว่า
4. ข้อกำหนดและข้อจำกัดของประเทศปลายทาง
- ตรวจสอบว่าสินค้าของคุณอยู่ในรายการสินค้าต้องห้ามของประเทศปลายทางหรือไม่
- ศึกษาเกี่ยวกับภาษีนำเข้าและค่าธรรมเนียมศุลกากรที่อาจเกิดขึ้น
5. ความปลอดภัยและการประกันพัสดุ
- ตรวจสอบว่าสามารถซื้อประกันพัสดุเพิ่มเติมได้หรือไม่ โดยเฉพาะของที่มีมูลค่าสูง
- เลือกบริการที่มีระบบติดตามพัสดุเพื่อความมั่นใจ
ขั้นตอนการเตรียมพัสดุก่อนการส่งออก
เพื่อให้พัสดุถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ควรเตรียมพัสดุตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- แพ็คของให้แน่นหนา
- ใช้กล่องกระดาษลูกฟูกที่แข็งแรง
- ห่อของที่แตกง่ายด้วยบับเบิ้ลกันกระแทก
- ใช้เทปกาวปิดกล่องให้เรียบร้อย
- ติดฉลากและที่อยู่ให้ถูกต้อง
- ระบุชื่อและที่อยู่ผู้รับอย่างชัดเจนเป็นภาษาอังกฤษ
- ระบุหมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับเพื่อความสะดวกในการติดต่อ
- ตรวจสอบเอกสารที่ต้องใช้
- พัสดุบางประเภทอาจต้องใช้เอกสารศุลกากร เช่น ใบกำกับสินค้า (Invoice) หรือเอกสารรับรองสินค้าต่าง ๆ
- เลือกบริการขนส่งที่เหมาะสม
- เปรียบเทียบผู้ให้บริการขนส่งที่มี เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดและตรงตามเงื่อนไขที่ต้องการ
- ติดตามสถานะพัสดุ
- หลังจากส่งพัสดุแล้ว อย่าลืมใช้หมายเลขติดตาม (Tracking Number) เพื่อตรวจสอบสถานะพัสดุของคุณ
การ ส่งของต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องยากหากคุณเลือกใช้บริการที่เหมาะสมและเตรียมพัสดุให้ถูกต้อง สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ ความเร็วในการจัดส่ง ค่าใช้จ่าย กฎระเบียบของประเทศปลายทาง และความปลอดภัยของพัสดุ หากคุณต้องการส่งของที่รวดเร็วและปลอดภัย บริการขนส่งเอกชนอาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการประหยัดงบ บริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนส่งจะช่วยให้พัสดุของคุณถึงปลายทางได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย!