ในยุคที่ชีวิตในเมืองต้องเร่งรีบและพื้นที่ในบ้านหรือคอนโดมีจำกัด การมองหาบริการรับฝากของดี ๆ สักที่กลายเป็นเรื่องจำเป็น และตอนนี้มีบริการใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Widing ที่มาแรงในเรื่องของบริการรับฝากของแบบมืออาชีพ หรือบริการ ล็อคเกอร์ฝากของ ที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคนที่เดินทางด้วย BTS หรือ MRT เป็นประจำ มาดูกันว่าทำไมบริการจาก Widing ถึงตอบโจทย์กับคนเมือง และควรเลือกใช้แบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง
ทำความรู้จักกับ Widing เป็นใคร ให้บริการอะไร

widing คือ บริการรับฝากของ แบบครบวงจร ที่สามารถรับของถึงบ้านคุณ จัดเก็บในพื้นที่ปลอดภัย และส่งคืนได้เมื่อคุณต้องการ จุดเด่นคือความยืดหยุ่นและความสะดวก ไม่ต้องออกไปไหนเลย ของจะถูกดูแลอย่างดีและติดตามสถานะได้ผ่านระบบออนไลน์
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ:
- ฝากของช่วงย้ายบ้าน ย้ายหอ
- มีของใช้ตามฤดูกาล เช่น เสื้อกันหนาว อุปกรณ์กีฬา
- ไม่อยากเสียพื้นที่ในห้องกับของที่ไม่ได้ใช้บ่อย
- ต้องซ่อมบ้านแล้วต้องหาที่เก็บชั่วคราว
Widing แตกต่างจากเจ้าอื่นอย่างไร
- รับของถึงหน้าบ้าน – ไม่ต้องขนของไปเอง ให้ทีมงานมาช่วยแพ็คและยก
- ติดตามสถานะผ่านระบบออนไลน์ – ทุกการจัดเก็บและเคลื่อนไหวมีข้อมูลให้ดูได้
- มีประกันคุ้มครองความเสียหาย – ปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น
- คิดราคาแบบโปร่งใส – ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
นอกจากนี้ ยังมีบริการคู่แข่งอย่าง mespace ที่เน้นให้เช่าห้องเก็บของแบบ Self Storage คือคุณขนของไปเก็บเอง เปิด-ปิดห้องเก็บของได้ตลอด 24 ชม. เหมาะกับคนที่อยากจัดการของด้วยตัวเองและต้องการพื้นที่เฉพาะตัว
วิธีใช้บริการฝากของกับ Widing ตั้งแต่ต้นจนจบ
- เข้าเว็บไซต์หรือแอป widing
- เลือกประเภทการฝากที่ต้องการฝาก โดยมีให้เลือก 2 แบบคือ รายพื้นที่และรายกล่อง
- แจ้งรายละเอียดและนัดวันเวลาให้ทีมมารับของ เพื่อนำไปเก็บ
- ตรวจสอบสิ่งของก่อนฝากว่าไม่ได้มีส่วนไหนเสียหาย
- ติดตามสถานะการฝากและขนย้ายของ
- ขอรับของคืนเมื่อไหร่ก็แค่แจ้งล่วงหน้า
เพียงเท่านี้ก็ฝากของเสร็จแล้วง่ายมาก เหมือนมีคลังส่วนตัวที่เรียกใช้งานได้ทุกเมื่ออย่างนั้นเลย
พื้นที่ให้บริการและประเภทของที่สามารถฝากกับ Widing

ให้บริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนสิ่งของที่ฝากได้นั้นตามนี้เลย
- เฟอร์นิเจอร์ – เฟอร์นิเจอร์ตามฤดูกาล ของเก่าหรือของที่มีคุณค่าทางจิตใจ เฟอร์นิเจอร์ส่วนเกินระหว่างการย้ายบ้าน
- เอกสารและแฟ้มข้อมูล – เอกสารธุรกิจ เอกสารทางกฎหมาย และเอกสารภาษี
- เครื่องใช้ไฟฟ้า – ทีวีเก่า คอมพิวเตอร์ ตู้เย็น และเครื่องใช้ในครัว
- เสื้อผ้าและของใช้ตามฤดูกาล – เสื้อกันหนาว อุปกรณ์ฤดูร้อน หรือชุดคอสตูม
- ของสะสมและของที่ระลึก – งานศิลปะ แผ่นเสียง หนังสือการ์ตูน ของสะสมกีฬา
- หนังสือและนิตยสาร – คอลเลกชันหนังสือ วัสดุการศึกษา และเอกสารเก็บถาวร
- สต็อกสินค้าและอุปกรณ์ธุรกิจ – สต็อกส่วนเกิน วัสดุจัดแสดงสินค้า อุปกรณ์สำนักงาน
- ของตกแต่งบ้านและของตกแต่งตามฤดูกาล – ของตกแต่งวันหยุด ต้นไม้ประดิษฐ์ และของตกแต่งเทศกาล
- ของเล่นและของที่ระลึกวัยเด็ก – ของเล่นเก่า ตุ๊กตา หรือกล่องความทรงจำในวัยเด็ก
- ยานพาหนะขนาดเล็ก ต้องทำความสะอาดและไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิง หากมีแบตเตอรี่จำเป็นต้องถอดแบตเตอรี่ออกก่อนทุกครั้ง
ในขณะเดียวกัน ถ้าคุณต้องการฝากของชั่วคราวระหว่างเดินทาง เช่น ไปเดินสยาม ไปทำธุระแถวอโศก บริการ ล็อคเกอร์ฝากของบนรถไฟฟ้า เช่น ตู้ฝากของในสถานี BTS ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะใช้เวลาไม่นาน ราคาถูก และเดินต่อได้สบาย ๆ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรับฝากของ
Q: Widing กับ mespace ต่างกันยังไง?
A: Widing รับของถึงบ้านและเก็บให้ ส่วน mespace ต้องขนของไปเอง แต่ได้ใช้พื้นที่เฉพาะตัว
Q: ล็อคเกอร์ฝากของบนรถไฟฟ้าใช้งานยังไง?
A: ใช้ง่ายมาก แค่สแกนจ่ายเงิน เลือกล็อคเกอร์ ใส่ของ แล้วรับรหัสไว้เปิดตอนมาเอาคืน
Q: ฝากของกับ widing ต้องแพ็คเองไหม?
A: ไม่จำเป็น ถ้าคุณไม่สะดวก จะมีทีมงานมาช่วยแพ็คให้ด้วย
Q: ของหายหรือเสียหายทำยังไง?
A: widing และ mespace มีประกันขั้นพื้นฐานให้ และสามารถซื้อเพิ่มได้
ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีจัดการของในชีวิตให้เบาขึ้น widing เป็นตัวเลือกที่สะดวกสุด ๆ แต่ถ้าคุณอยากควบคุมทุกอย่างเองแบบมีพื้นที่เฉพาะตัว mespace ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน และถ้าคุณต้องการฝากของชั่วคราวระหว่างวันอย่างไว ใช้ ล็อคเกอร์ฝากของบนรถไฟฟ้า ก็ช่วยคุณได้เยอะ
เลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ แล้วการฝากของจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป!